จำหน่าย ทัลคัม(Talcum)
คุณภาพดี ราคาถูก เหมาะสำหรับทุกอุตสาหกรรม จัดส่งทั่วประเทศ
ประโยชน์ของทัลคัม เช่น
- ทำตัวหล่อกับเรซิ่น - อุตสาหกรรมเซรามิกส์
- ใช้ผสมเรซิ่นเพื่อทำสีโป๊ว
-
- ทำหินเทียม
- อุตสาหกรรมพลาสติก - วัตถุดิบงานไฟเบอร์กลาส
- - อุตสาหกรรมสี - อุตสาหกรรมกระดาษ - อุตสาหกรรมยาง
- - อุตสาหกรรม ปุ๋ย - อุตสาหกรรมสายไฟ
-
สินค้าของทางบริษัทฯ
- - ทัลคัม (Talcum)
ความระเอียด 1250 เมส บรรจุกระสอบละ 20 กิโลกรัม
( บรรจุถุงสีขาว(ไม่มีตรายี่ห้อ)
การจัดส่งสินค้า
- - บริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ
โดยบริษัทฯขนส่ง
- ลูกค้าสามารถมารับสินค้าได้ที่โกดัง
เขตบางบอน กรุงเทพฯ
ติดต่อสั่งซื้อ หรือ
สอบถามข้อมูลได้ที่
บริษัท
ทวีผลเกษตรธรรมชาติ จำกัด
|
||||||||||||
ที่ตั้ง
:
|
|
|||||||||||
จังหวัด
:
|
กรุงเทพฯ
|
|||||||||||
รหัสไปรษณีย์
:
|
10150
|
|||||||||||
ประเทศ
:
|
ไทย
|
|||||||||||
โทรศัพท์
:
|
034-824563-4
|
|||||||||||
แฟกซ์
:
|
034-823168
|
|||||||||||
|
081-9354335, 081-6228499
|
|||||||||||
e-mail
:
|
twpagri@hotmail.com
|
|||||||||||
website
:
|
http://saletalcum.blogspot.com/ |
มารู้จักแร่ทัลคัม (Talc) หรือ แมกนีเซียมซิลิเกต (magnesium silicate)
Talc มีโครงสร้าง TOT เหมือนพวก Montmorillonite
แต่ Al+3 ใน Octahedral sheet ถูกแทนที่ด้วย Mg+2
(Brucite sheet) แรงยึดกันระหว่างออกซิเจนกับออกซิเจนของแร่ละชั้นไม่แข็งแรงจึงเป็นเหตุให้เกิดรอยแตกตามแนวตั้งฉากกับแกน C ได้ง่าย และเป็นเหตุทำให้แร่นี้มีเนื้อแร่อ่อนนิ่ม ส่วนประกอบทางเคมีตามทฤษฎี
คือ 63.5%
SiO2, 31.7% MgO และ4.8%H2O
Talc แร่นี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการจึงใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมเซรามิกส์หลายชนิด คือ
1. ใช้เป็นส่วนผสมส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมกระเบื้องกรุฝาผนัง
เนื่องจากแร่นี้มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดการรานตัว (crazing) ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการขยายตัวเมื่อชื้น
2. ใช้เป็นส่วนผสมเนื้อดินปั้นภาชนะที่ใช้สำหรับการปรุงอาหาร
เนื่องจากแร่นี้มีคุณสมบัติต้านทานการเกิดการช๊อค เนื่องจากความร้อน (thermal
shock) นอกจากนี้คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์อีกอันหนึ่งก็คือ เนื้อแร่นี้ไม่แข็งมากนักและเป็นมันลื่น
แบบโลหะที่ใช้ในการขึ้นรูป โดยวิธีการอัดเนื้อดินปั้นที่มี Talc เป็นส่วนผสม จะมีอายุการใช้งานได้นานกว่าปกติ
การใช้งานในอุตสาหกรรมเซรามิก
กระเบื้องเซรามิก มีการเติมทัลคัมลงไปเพื่อช่วยควบคุมค่า C.O.E ของเนื้อกระเบื้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเบื้องที่เผาที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อให้เหมาะกับ C.O.E ของเคลือบ โดยจะช่วยป้องกันการรานตัว (delay crazing) เนื่องจากการขยายตัวเมื่อถูกความชื้น การเติมทัลคัมลงไปจะช่วยเพิ่มความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความร้อน (Thermal shock resistance) สำหรับกระเบื้องบุผนัง การเติมทัลคัมลงไปแทนที่พวกคาร์บอเนตบางส่วนจะช่วยให้การเผาเร็วขึ้นทั้งใน ช่วงการเผาและช่วงการเย็นตัว
สำหรับกระเบื้องที่มี % การดูดซึมน้ำต่ำ (vitrified tile) การเติมทัลคัมลงไปในปริมาณไม่มากนักจะช่วยลดอุณหภูมิในการเผาลง รวมทั้งลดเวลาในการเผาลงด้วย เนื่องจากทัลคัมจะไปช่วยลดจุดยูเทคทิก (eutectic point) ของเฟสระหว่าง Al2O3-SiO2 ทำให้เกิด liquid phase sintering ได้ดีขึ้น การเกิดแก้วในเนื้อกระเบื้องจะเกิดได้เร็วขึ้นที่อุณหภูมิต่ำลง
กระเบื้องเซรามิก มีการเติมทัลคัมลงไปเพื่อช่วยควบคุมค่า C.O.E ของเนื้อกระเบื้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเบื้องที่เผาที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อให้เหมาะกับ C.O.E ของเคลือบ โดยจะช่วยป้องกันการรานตัว (delay crazing) เนื่องจากการขยายตัวเมื่อถูกความชื้น การเติมทัลคัมลงไปจะช่วยเพิ่มความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความร้อน (Thermal shock resistance) สำหรับกระเบื้องบุผนัง การเติมทัลคัมลงไปแทนที่พวกคาร์บอเนตบางส่วนจะช่วยให้การเผาเร็วขึ้นทั้งใน ช่วงการเผาและช่วงการเย็นตัว
สำหรับกระเบื้องที่มี % การดูดซึมน้ำต่ำ (vitrified tile) การเติมทัลคัมลงไปในปริมาณไม่มากนักจะช่วยลดอุณหภูมิในการเผาลง รวมทั้งลดเวลาในการเผาลงด้วย เนื่องจากทัลคัมจะไปช่วยลดจุดยูเทคทิก (eutectic point) ของเฟสระหว่าง Al2O3-SiO2 ทำให้เกิด liquid phase sintering ได้ดีขึ้น การเกิดแก้วในเนื้อกระเบื้องจะเกิดได้เร็วขึ้นที่อุณหภูมิต่ำลง
สุขภัณฑ์และพวกของใช้บนโต๊ะอาหาร
พวก vitreous china จะเติมทัลคัมลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยในเรื่องthermal shock resistance และสำหรับในเคลือบ ทัลคัมจะเป็นแหล่งที่ให้ MgO และ SiO2 ได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับทำเคลือบทั้งผิวมันและผิวด้าน ขึ้นกับปริมาณที่เติมลงไป โดยเฉพาะเคลือบผิวด้าน (Matt glaze) ที่มีส่วนผสมของ ทัลคัมจะให้พื้นผิวที่ดูแวววาวคล้ายผ้าไหม บางครั้งจึงเรียกว่า silk glaze หรือ Satin matt แต่ข้อจำกัดของการใช้ ทัลคัมในเคลือบก็คือ ปัญหาเรื่องการบวมน้ำ (swelling) ซึ่งจะทำให้คุณสมบัติการไหลตัวของเคลือบเปลี่ยนไปเมื่อเวลาเปลี่ยน ไป(Thixotropic) และจะทำให้เคลือบอืดตัวและทำการชุบเคลือบหรือ การสเปรย์เคลือบได้ยาก
พวก vitreous china จะเติมทัลคัมลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยในเรื่องthermal shock resistance และสำหรับในเคลือบ ทัลคัมจะเป็นแหล่งที่ให้ MgO และ SiO2 ได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับทำเคลือบทั้งผิวมันและผิวด้าน ขึ้นกับปริมาณที่เติมลงไป โดยเฉพาะเคลือบผิวด้าน (Matt glaze) ที่มีส่วนผสมของ ทัลคัมจะให้พื้นผิวที่ดูแวววาวคล้ายผ้าไหม บางครั้งจึงเรียกว่า silk glaze หรือ Satin matt แต่ข้อจำกัดของการใช้ ทัลคัมในเคลือบก็คือ ปัญหาเรื่องการบวมน้ำ (swelling) ซึ่งจะทำให้คุณสมบัติการไหลตัวของเคลือบเปลี่ยนไปเมื่อเวลาเปลี่ยน ไป(Thixotropic) และจะทำให้เคลือบอืดตัวและทำการชุบเคลือบหรือ การสเปรย์เคลือบได้ยาก
นอกจากนี้ยังมีการใช้
ทัลคัมสำหรับทาแบบปลาสเตอร์เพื่อที่จะช่วยให้การแกะแบบง่ายขึ้นด้วย
อิฐ (Brick) การเติมทัลคัมลงไปเล็กน้อยจะช่วยปรับปรุงการรีดของชิ้นงานได้ดีขึ้น เนื่องจากทัลคัมจะเป็นตัวหล่อลื่น
(เนื่องจากโครงสร้างที่มีการ slip ได้ง่าย)
ทำให้ผิวของอิฐที่รีดออกมาเรียบขึ้น และสำหรับอิฐแบบกลวง (Hollow brick) ที่ต้องมีแบบรีดที่มีรู การเติมทัลคัมลงไปในเนื้อดินเล็กน้อยจะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการรีดดีขึ้น
แต่ไม่ควรเติมลงไปมากเนื่องจากทัลคัมจะมีปัญหาการขยายตัวหลังรีด และการแห้งตัวที่ช้า
ซึ่งจะทำให้อิฐแตกร้าวในระหว่างอบแห้งได้
การใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ
การใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ
- ทัลคัมเป็นตัว filler กระดาษ
และพลาสติก
- เป็นผงดับกลิ่นสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
- เป็นส่วนผสมในแป้งทาตัว
- เป็นตัวหล่อลื่นเพื่อช่วยยืดอายุแบบในอุตสาหกรรมโลหะ
- ใช้เป็นส่วนผสมในยาฆ่าแมลง
คุณสมบัติที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการใช้งานสำหรับอุตสาหกรรมเซรามิก
สำหรับเนื้อดิน
คุณสมบัติที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการใช้งานสำหรับอุตสาหกรรมเซรามิก
สำหรับเนื้อดิน
ดูค่าวิเคราะห์ทางเคมีเพื่อดู %ออกไซด์ที่มีขนาดของอนุภาคมลทินที่ปนเปื้อนเข้ามามีได้บ้าง มักเป็นพวก Fe2O3,
TiO2 แต่ถ้าเป็นพวกคาร์บอเนต จำเป็นต้องควบคุมอย่างมาก ถ้าใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อวิเทรียส
โดยเฉพาะพวกที่เผาเร็วหรือทำการเผาครั้งเดียวเช่นพวกกระเบื้องเซรามิก
สำหรับเคลือบ
สำหรับเคลือบ
ดูค่า chemical analysis ขนาดของอนุภาคและการกระจายตัวของอนุภาค (particle
size distribution)
มลทินต้องน้อยมาก โดยเฉพาะ Fe2O3 ใส่ในสูตรสีเคลือบแล้วทำการเผาเพื่อดูผิวหน้าและดูเฉดสีสำหรับสีแดง
Maroon, สีดำ จะเห็นได้ว่าทัลคัมเป็นวัตถุดิบที่ใช้ประโยชน์ได้มากสำหับอุตสาหกรรมเซรามิก
ซึ่งในการนำไปใช้งานนั้นควรคำนึงถึงจุดประสงค์ในการใช้งาน รวมทั้งข้อจำกัดของการใช้งานด้วย
ทัลคัมช่วยเพิ่มน้ำหนัก
ใช้ผสมในน้ำยาเรซิ่นเพื่อเพิ่มน้ำหนักหรือเพิ่มความหนา
และสามารถทำเป็นสีโป๊วได้ (ช่วยลดต้นทุนนะค่ะ
เหมาะสำหรับโรงงานเรซิ่นค่ะ)ใช้ผสมในน้ำยาเรซินเพื่อเพิ่มน้ำหนักหรือเพิ่มความหนา
และสามารถทำเป็นสีโป๊วได้ (เรซินโป๊ว) นำแป้งทัลคัมผสมกับน้ำยาเรซิน โดยค่อยๆใส่แล้วกวนให้เข้ากันให้ทั่ว ปริมาณที่ใช้
สามารถใส่ได้ตามความหนืดที่ต้องการ เช่น ถ้าต้องการเพิ่มปริมาณเนื้อและน้ำหนัก เพื่อใช้ทาด้านหลังของชิ้นงานเพื่อกลบรอยใยแก้ว
ใช้อัตราส่วนผสมปริมาณ น้ำยาเรซิน = 100 : แป้งทัลคัม = 100
(โดยน้ำหนัก)
กลุ่มพลาสติกวิศวกรรม ที่ใส่สารเสริมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น FIBER GLASS, TALCUM, EPDM และอื่นๆ ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวาง ในวงการอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท
กลุ่มพลาสติกวิศวกรรม ที่ใส่สารเสริมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น FIBER GLASS, TALCUM, EPDM และอื่นๆ ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวาง ในวงการอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท
สำหรับเคลือบแบบเผาเร็วครั้งเดียว (Single fast firing) ในอุตสาหกรรมกระเบื้องก็มีการเติมทัลคัมลงไปในเคลือบด้วยเพื่อให้เกิดผิว ด้านที่สวยงาม
แต่ต้องระวังในการเผาช่วงอุณหภูมิ 900 °C เนื่องจากทัลคัมจะมีการสลายน้ำในโครงสร้างผลึกในช่วงนี้ซึ่งจะทำให้เกิด
ปัญหารูเข็มที่ผิวเคลือบได้ ดังนั้นถ้าต้องการจะใช้ทัลคัมสำหรับสีเคลือบควรเป็นทัลคัมที่นำไปเผา
(Calcine) แล้ว
วัสดุทนไฟ (Refractory) มักจะใช้ทัลคัมสำหรับผลิตภัณฑ์ Kiln furniture ที่เป็นเนื้อคอร์เดียไรท์ (2MgO 2Al2O3 5SiO2) เนื่องจากคอร์เดียไรท์เป็นสารที่มีสัมประสิทธิ์การขยายตัว เนื่องจากความร้อนต่ำมาก ประมาณ 1-2x10-6 °C-1 แต่คอร์เดียไรท์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากธรรมชาตินั้นมีได้น้อย และไม่ค่อยเสถียร เนื่องจากอุณหภูมิที่เกิดคอร์เดียไรท์นั้นเป็นช่วงที่แคบมาก การใช้ทัลคัมเพื่อเป็นแหล่งของ MgO กับ SiO2 และพวก Mullite จะสามารถผลิตเนื้อคอร์เดียไรท์ที่ใช้กับการผลิต Kiln furniture ที่ต้องการสมบัติด้าน Thermal shock resistance ที่ดี แต่การเติมทัลคัมลงไปก็จะทำให้ความทนไฟของ kiln furniture ลดต่ำลง จึงจำเป็นต้องหาจุดที่เหมาะสมสำหรับการผลิตด้วย
วัสดุทนไฟ (Refractory) มักจะใช้ทัลคัมสำหรับผลิตภัณฑ์ Kiln furniture ที่เป็นเนื้อคอร์เดียไรท์ (2MgO 2Al2O3 5SiO2) เนื่องจากคอร์เดียไรท์เป็นสารที่มีสัมประสิทธิ์การขยายตัว เนื่องจากความร้อนต่ำมาก ประมาณ 1-2x10-6 °C-1 แต่คอร์เดียไรท์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากธรรมชาตินั้นมีได้น้อย และไม่ค่อยเสถียร เนื่องจากอุณหภูมิที่เกิดคอร์เดียไรท์นั้นเป็นช่วงที่แคบมาก การใช้ทัลคัมเพื่อเป็นแหล่งของ MgO กับ SiO2 และพวก Mullite จะสามารถผลิตเนื้อคอร์เดียไรท์ที่ใช้กับการผลิต Kiln furniture ที่ต้องการสมบัติด้าน Thermal shock resistance ที่ดี แต่การเติมทัลคัมลงไปก็จะทำให้ความทนไฟของ kiln furniture ลดต่ำลง จึงจำเป็นต้องหาจุดที่เหมาะสมสำหรับการผลิตด้วย
ทัลคัมช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ
ซ่อม ไฟเบอร์รถยนต์
อัตราส่วนของผงทัลคัม:เรซิ่น = 1:1
ค่อยๆ ผสมผงทัลคัมลงในเรซิ่นทีละนิดแล้วคนให้เข้ากัน จะได้อัตราส่วนที่ต้องการ
จากนั้นเติมตัวเร่งปฎิกริกยาลงไปแล้วคนให้เข้ากันอีก จากนั้นก็ลงมือโป๊วซ่อมรอยแตกรอยร้าวเลยครับ
เพราะถ้าช้าไปมันก็จะแห้ง การโป๊วก็เหมือนการโป๊วสีรถยนต์ครับ
ทัลคัมหรือหินสบู่ มีอีกชื่อว่าทัลค์ (talc)
ซึ่งมาจากภาษาอาราบิกว่า talg มีความแข็งระดับที่
1 ใน Moh’s scale มีสูตรคือ 3MgO4SiO2
H2O ซึ่งมีแร่อยู่อีกชนิดที่สูตรเคมีเหมือนกับ ทัลคัม คือ สตีไทต์ (Steatile)
ซึ่งสตีไทต์นั้นจะมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าทัลคัม
โครงสร้างของแร่ Talcum ทัลคัมมีโครงสร้างเป็น mica-like structure เป็น ชั้น T-O-T หรือคล้ายกับ มอนโมลิลโลไนท์ (Montmorillonite) มีชั้นของเตตระฮีดรอท 2 ชั้นที่เป็นซิลิกา กับชั้นออกตะฮีดรอท ของ Mg2+ (Brucite sheet) แรงยึดกันระหว่างชั้นไม่แข็งแรงโดยเป็นแรงแวนเดอวาวล์ เกิดการเลื่อนของชั้นได้ง่าย ทำให้แร่นี้มีเนื้อแร่ที่อ่อนไม่แข็งแรง โครงสร้างผลึกเป็นโมโนคลินิค (Monoclinic)
ส่วนประกอบทางเคมีทางทฤษฎีมี 64%SiO2 31%MgO 5%H2O
แหล่งที่เกิดทัลคัม เป็นผลมาจากการเกิด Hydrothermal ส่วนใหญ่มักจะเกิดร่วมกันกับโดโลไมท์และแมกนีไซท์บางครั้งก็เกิดร่วมกับพวก หินอัคนีที่มีซิลิกาเป็นองค์ประกอบน้อยกว่า 45% (Ultrabasic rock) เช่นแร่โอลิวีน (Olivine), แอมฟิโบล(Amphibole), คลอไรต์ (Chlorite), และเซอร์เพนทีน (Serpentine) เช่นเดียวกับในแหล่งที่เกิดจากการถูกพัดพามาสะสมไว้ องค์ประกอบของแร่จะใกล้เคียงกันทั้งในแหล่งที่เป็นปฐมภูมิ (primary deposit) และแหล่งที่เป็นแหล่งทุติยภูมิ (secondary or sedimentary deposit)
แหล่งทัลคัมที่สำคัญในโลก มีอยู่ที่ อิตาลี ออสเตรีย สเปน ฝรั่งเศส อเมริกา และจีน ส่วนแหล่งในเมืองไทยนั้นส่วนใหญ่เป็นทัลคัมที่มีมลทินปนอยู่ในปริมาณสูง ไม่เหมาะสำหรับใช้ในสีเคลือบแหล่งที่สำคัญอยู่ที่จ.อุตรดิตถ์
คุณลักษณะที่สำคัญของทัลคัม
โครงสร้างของแร่ Talcum ทัลคัมมีโครงสร้างเป็น mica-like structure เป็น ชั้น T-O-T หรือคล้ายกับ มอนโมลิลโลไนท์ (Montmorillonite) มีชั้นของเตตระฮีดรอท 2 ชั้นที่เป็นซิลิกา กับชั้นออกตะฮีดรอท ของ Mg2+ (Brucite sheet) แรงยึดกันระหว่างชั้นไม่แข็งแรงโดยเป็นแรงแวนเดอวาวล์ เกิดการเลื่อนของชั้นได้ง่าย ทำให้แร่นี้มีเนื้อแร่ที่อ่อนไม่แข็งแรง โครงสร้างผลึกเป็นโมโนคลินิค (Monoclinic)
ส่วนประกอบทางเคมีทางทฤษฎีมี 64%SiO2 31%MgO 5%H2O
แหล่งที่เกิดทัลคัม เป็นผลมาจากการเกิด Hydrothermal ส่วนใหญ่มักจะเกิดร่วมกันกับโดโลไมท์และแมกนีไซท์บางครั้งก็เกิดร่วมกับพวก หินอัคนีที่มีซิลิกาเป็นองค์ประกอบน้อยกว่า 45% (Ultrabasic rock) เช่นแร่โอลิวีน (Olivine), แอมฟิโบล(Amphibole), คลอไรต์ (Chlorite), และเซอร์เพนทีน (Serpentine) เช่นเดียวกับในแหล่งที่เกิดจากการถูกพัดพามาสะสมไว้ องค์ประกอบของแร่จะใกล้เคียงกันทั้งในแหล่งที่เป็นปฐมภูมิ (primary deposit) และแหล่งที่เป็นแหล่งทุติยภูมิ (secondary or sedimentary deposit)
แหล่งทัลคัมที่สำคัญในโลก มีอยู่ที่ อิตาลี ออสเตรีย สเปน ฝรั่งเศส อเมริกา และจีน ส่วนแหล่งในเมืองไทยนั้นส่วนใหญ่เป็นทัลคัมที่มีมลทินปนอยู่ในปริมาณสูง ไม่เหมาะสำหรับใช้ในสีเคลือบแหล่งที่สำคัญอยู่ที่จ.อุตรดิตถ์
คุณลักษณะที่สำคัญของทัลคัม
- มีค่า C.O.E (สัมประสิทธิ์การขยายตัวจากความร้อน)
สูงประมาณ 270x10-7 °C-1 ที่ 1020 °C
- ความถ่วงจำเพาะ ~ 2.7-2.8
- มีการขยายตัวหลังจากอบแห้ง
- สามารถบดให้เป็นผงละเอียดได้ง่าย
- เมื่อใส่ในเคลือบหรือในน้ำดินจะทำให้น้ำดินหรือเคลือบเกิด thixotropy
เนื่องจากการบวมน้ำ (swelling) ของ
T-O-T layer ที่มีน้ำเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างชั้น
- จาก D.T.A
curve เกิดปฏิกิริยาดูดความร้อนที่ 900-1000 °C เนื่องจากเกิดการสลายตัวของน้ำในโครงสร้างผลึก (dehydroxylation)